Conspiracy Theory: ปะติดปะต่อมั่วซั่วจนเป็นเรื่อง

Conspiracy Theory: ปะติดปะต่อมั่วซั่วจนเป็นเรื่อง
  • มนุษย์ไม่เคยไปเหยียบดวงจันทร์
  • บางคนยังเชื่อว่าโลกแบน
  • โควิด-19 เป็นเชื้อที่หลุดมาจากห้องทดลองในจีน
  • ผู้นำประเทศบางคนยังเชื่อว่าวัคซีนบางยี่ห้อดีที่สุด

เชื่อหรือไม่? คำครหาเหล่านี้(ที่ชวนกุมขมับ) ยังมีคนบางกลุ่มอีกหลายคนที่เชื่อสุดใจ…พวกเขาติดหลุมพราง “Conspiracy Theory” เข้าให้แล้ว

Conspiracy Theory ปะติดปะต่อมั่วซั่วจนเป็นเรื่อง

Conspiracy Theory หรือที่รู้จักกันว่า “ทฤษฎีสมคบคิด” มีรากฐานมาจากการปะติดปะต่อเรื่องราวต่างๆ (ที่ไร้มูลความจริง) จนหลงเชื่อสนิทใจว่ามันคือ “ความจริง”

กลุ่มคนที่เชื่อในทฤษฎีสมคบคิด มักเชื่ออย่างสนิทใจว่า เหตุการณ์หนึ่งที่เกิดขึ้นมาจาก

  • ผลประโยชน์แอบแฝงทางการเมืองหรือกลุ่มธุรกิจ
  • มีสมาคมลับที่ชักใยผู้มีอำนาจอีกทีหนึ่ง 
  • หรือมีการปิดบังความลับบางอย่างต่อประชาชน

เช่น เชื่อว่า “ภาวะโลกร้อน” ไม่ใช่ปัญหาที่เกิดขึ้นจริงจนทำให้น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลาย / อุณหภูมิโลกสูงขึ้น / สัตว์ป่าสูญพันธุ์

…แต่มาจากการสร้างเรื่องราวของ “กลุ่มบริษัทด้านสิ่งแวดล้อม” ที่จะได้ประโยชน์เมื่อผู้บริโภคหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

Conspiracy Theory เกิดขึ้นได้อย่างไร?

อุปนิสัยหนึ่งที่ติดตัวมนุษย์มาแต่อดีตกาลคือการ “หาสาเหตุให้กับทุกเรื่อง” 

อุปนิสัยนี้เป็นจุดแข็งที่ทำให้มนุษย์ฉลาดกว่าสัตว์อื่นๆ และสามารถสร้างอารยธรรมขึ้นมาได้

แต่อีกด้านหนึ่ง…

  • บางเรื่องยังไม่รู้สาเหตุ เพราะ…ข้อมูลยังไม่พอ (ไม่รู้ว่าจุลินทรีย์ดีต่อร่างกายยังไง)
  • บางเรื่องยังไม่รู้สาเหตุ เพราะ…ไม่มีเทคโนโลยี (คนโบราณไม่รู้ว่าฟ้าผ่าเกิดจากอะไร)
  • บางเรื่องยังไม่รู้สาเหตุ เพราะ…ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ (ไม่รู้ว่าคนนี้รักเราจริงๆ หรือไม่)

แต่มันไม่ได้จบแค่นั้น เพราะคนเรามักคะยั้นคะยอ “หาคำตอบ” (ท่ามกลางข้อจำกัด) โดยการเชื่อมโยง “ปะติดปะต่อ” เรื่องโน้น-เรื่องนี้แบบมั่วซั่ว

ซึ่งการปะติดปะต่ออันไร้แก่นสาร จะทำให้สับสนระหว่าง

  • Correlation แค่มีความสัมพันธ์กันเฉยๆ
  • Causation เป็นเหตุเป็นผลกัน

สุดท้ายเรื่องที่แค่(บังเอิญ) มีความสัมพันธ์กันเฉยๆ…กลับกลายเป็นเหตุเป็นผลขึ้นมาซะงั้น

นอกจากนี้ในทางจิตวิทยา มนุษย์เกลียดและกลัว “ความไม่รู้” วิธีการแก้ปัญหาโดยเร็วก็คือ รีบเชื่อมโยงข้อมูลเข้าด้วยกัน และ สมาทานว่ามันคือเหตุและผล

Conspiracy Theory ด้านพลังงาน

คนบางกลุ่มยังเชื่อว่า “น้ำมันที่ใกล้จะหมดโลก” นั้นไม่เป็นความจริง แต่เป็นคำกล่าวอ้างของผู้ค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่ของโลก 

ทั้งๆ ที่หลักฐานปรากฎแล้วว่า น้ำมันสำรอง (Oil reserve) ที่ถูกค้นพบแล้วทั่วโลกปัจจุบันมีอยู่ 1.65 ล้านล้านบาร์เรล เมื่อคำนวณจากปริมาณการใช้น้ำมันในปัจจุบันและอนาคตที่จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โลกจะเหลือน้ำมันให้ใช้อีก 47 ปี

ความพยายามตอนนี้จึงอยู่ที่การขุดค้นพบแหล่งน้ำมันใหม่ๆ และการหันไปใช้พลังงานทดแทน (ซึ่งไม่ได้ทำกันได้ง่ายๆ)

Conspiracy Theory ด้านอวกาศ 

แม้ยาน Apollo 11 จะลงจอดบนดวงจันทร์ได้สำเร็จมากว่าครึ่งศตวรรษแล้ว แต่ล่าสุดจากการสำรวจของ NASA ให้ผลลัพธ์ที่น่าตกใจว่า 

ผู้ถูกสำรวจชาวอเมริกันกว่า 10% ยังคงไม่เชื่อว่ามนุษย์บินไปเหยียบถึงดวงจันทร์ได้สำเร็จจริงๆ!! โดยมองว่าเป็นการจัดฉากของอเมริกา เพื่อสร้างจุดยืนที่เหนือกว่าสหภาพโซเวียดในยุคนั้น

อย่างไรก็ตาม คำครหาที่กล่าวอ้าง ล้วนถูกโต้แย้งกลับด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์หมดแล้ว เช่น

  • ทำไมธงโบกสะพัด ดวงจันทร์ไม่มีกระแสลม? เพราะ เกิดจากแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นตอนปักธงลงไป
  • ทำไมท้องฟ้ามืดสนิทไม่มีดวงดาว? เพราะ แสงจากดวงอาทิตย์ตกกระทบพื้นผิวดวงจันทร์ เกิดการสะท้อนขึ้นมาจนสว่างจ้า ทำให้มองดวงดาวด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น (แต่ยังมีอยู่)
  • ทำไมรอยเท้าของนักบินอวกาศยังคงอยู่? เพราะ ดวงจันทร์ไม่มีความชื้น-ไม่มีลม รอยเท้าจึงยังคงรูปได้เนิ่นนาน

Conspiracy Theory ด้านสุขภาพ

คนสูบบุหรี่จัดมักไม่เชื่อว่าบุหรี่มีโทษต่อร่างกาย (ทั้งๆ ที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้ว) แต่มองว่าเป็นเพราะขั้วตรงข้ามพยายามสร้างความชอบธรรมเพื่อโจมตีบริษัทบุหรี่และจำกัดเสรีภาพของตัวเอง

รู้หรือไม่ว่า 90% ของคนที่เป็นมะเร็งปอดทั่วโลก มีสาเหตุหลักมาจากการสูบบุหรี่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน

Conspiracy Theory ทางการเมือง 

เหตุการณ์ล่าสุดที่สร้างความเสื่อมเสียมากที่สุดต่อประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยของสหรัฐอเมริกา คือ “การบุกยึดรัฐสภา” ของกลุ่มผู้สนับสนุน Donald Trump เมื่อต้นปี 2021

ผู้สนับสนุนเหล่านี้ถูกปลุกปั่นหลงเชื่อ(อย่างสุดใจ) ว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมามีทุจริตใหญ่หลวง และเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่ต้องออกมาทำอะไรบางอย่าง

นอกจากนี้ Trump ยังเคยกล่าวว่าปัญหา “ภาวะโลกร้อน” เป็นเรื่องหลอกลวง โดยมาจากทางการจีนที่พยายามโน้มน้าวให้อเมริกาเซ็นเข้าร่วม Paris Agreement ลดปริมาณการปล่อยมลพิษจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจอเมริกาชะลอตัวในที่สุด

Conspiracy Theory ทางธุรกิจ

คนบางกลุ่มยังเชื่อว่ามี “ผู้ทรงอิทธิพล” อยู่เบื้องหลังที่ควบคุมชะตากรรมทางเศรษฐกิจและการเงินของโลกใบนี้ให้เป็นไปตามที่ต้องการ

พวกเขาเชื่อเหลือเกินว่าคนกลุ่มนี้ (ที่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร)

  • คือผู้บงการให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกในแต่ละครั้ง
  • อยู่เบื้องหลังกฎระเบียบโลกและการค้าระหว่างประเทศ
  • มีอำนาจมากกว่าปธน.สหรัฐฯ และรวยกว่าเศรษฐีที่ Forbes จัดอันดับ

แต่จากการสืบค้นของหน่วยงานภาครัฐต่างๆ กลับพบว่าข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่มีมูลความจริงเลย และไม่สามารถหาหลักฐานมายืนยันได้

วิธีป้องกัน Conspiracy Theory

Critical Thinking สำคัญมากในการสู้กับทฤษฎีสมคบคิด เพราะต้องฝ่าด่านเหตุผลหลายชั้น (Layers of Reason) ที่เปลือกนอกฟังดูดีมีเหตุ แต่เปลือกในไร้แก่นสาร

เพราะโดยทั่วไป Conspiracy Theory ไม่ได้ “ไร้เหตุผล” ซะทีเดียว เพียงแต่มีข้อเท็จจริงที่ถูกต้องน้อยนิดมาก แล้วเอาส่วนที่ถูกเพียงน้อยนิดมากล่าวสรุปทั้งหมด

การ “ตั้งคำถาม” บ่อยๆ สงสัยอย่างต่อเนื่อง ก็ช่วยลดโอกาสตกหลุมพรางนี้ได้ ที่สำคัญ ต้องไม่ให้ความสำคัญกับ “ตัวบุคคล” มากเกินไป มิเช่นนั้นจะกลายเป็นว่า คนนี้พูดอะไรไป เราก็เชื่อหักปักหัวปำ

หลายคนมักกำชับให้มี “วิจารณญาณ” ให้ดีเวลามีมุมมองต่อเรื่องนี้ แต่วิจารณญาณของเราจะมีช่องโหว่ถ้าได้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมาแต่แรก 

ดังนั้นจึงควรค้นหาความจริงจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อ เช่น แหล่งที่นักวิทยาศาสตร์หรือนักวิชาการมาพูดคุยกัน (Scientific Community) ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ ไม่ได้แค่ใช้ตรรกะเหตุผลในการถกเถียง แต่มักมีผลวิจัย / หลักฐาน / ทฤษฎีมาสนับสนุนความคิดตัวเองเสมอ ซึ่งก็รับประกันความน่าเชื่อถือได้มากกว่าปกติ

นอกจากนี้ เราควรสร้าง “มาตรฐาน” การสืบเสาะหาข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อให้เป็นนิสัย เช่นเรื่อง

  • สุขภาพ - ให้ไปค้นหาจาก World Health Organization (WHO)
  • การเงินและเศรษฐกิจ - ให้ไปค้นหาจาก World Bank และ IMF
  • ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - ให้ไปค้นหาจาก United Nations (UN)

 

และถ้าเป็นเรื่อง “แบบประเมินอาชีพ” ก็ขอให้ไปค้นหาและทดลองทำได้จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง

#Conspiracy Theory
Writer: