Zero-Price Effect: เมื่อเลข 0 ทรงพลังกว่าที่คุณคิด

Zero-Price Effect: เมื่อเลข 0 ทรงพลังกว่าที่คุณคิด
  • เลือกของมาเติมให้ครบขั้นต่ำจะได้ “จัดส่งฟรี”
  • ยอมเสียเวลาต่อคิวซื้อกาแฟ เพราะ “ซื้อ 1 แถม 1”
  • ไม่เคยคิดจะซื้อมาก่อน แต่พอฟรี…รีบคว้าแทบไม่ทัน

รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังพฤติกรรมเหล่านี้ คือจิตวิทยาที่เรียกว่า “Zero-Price Effect”

Zero-Price Effect เมื่อเลข “0” ทรงพลังกว่าที่คุณคิด

คุณ Dan Ariely นักเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมแถวหน้าเผยว่า Zero-Price Effect คือการใช้กลยุทธ์ตั้งราคา-โน้มน้าวใจผู้คน ด้วยการใช้เลขราคา “0” มาเกี่ยวข้อง หรือก็คือ “ฟรี” นั่นเอง

  • ความต่างระหว่าง 1 บาท และ 2 บาท…นิดเดียว
  • ความต่างระหว่าง 1 บาท และ 0 บาท…มหาศาล!!!

ฟังดูเป็นผลดีต่อผู้บริโภค แต่เรื่องนี้กลับหลอกล่อให้คุณได้ของที่ “ไม่ได้ต้องการจริงๆ” ของบางอย่างที่เราแทบ “ไม่เคยคิดที่จะซื้อ” กลายมาเป็นน่าสนใจทันที คุณจะบอกลายอมแพ้ของที่เล็งไว้ตอนแรก เพื่อไปโอบกอดของอื่นที่ฟรี

แต่ความฟรี (0 บาท) ไม่ได้หมายความว่าคุณจะพึงพอใจหรือมีความสุขที่ได้มันมา

แต่ทำไม Zero-Price Effect ช่างดึงดูดใจ?

Dan Ariely ให้เหตุผลว่า มนุษย์เลือกของฟรีเพื่อ “หลีกเลี่ยงความสูญเสีย” (แม้จะไม่รู้ตัวก็ตาม) 

  • ถ้าเราจ่ายเงินซื้อของ อาจเกิดการสูญเสีย-เสียดายเงินได้ ถ้าของชิ้นนั้นตอบโจทย์เราไม่ได้ในที่สุด
  • แต่การเลือกของฟรี…เราไม่ได้เสียอะไรแม้ของนั้นจะไม่ชอบก็ตาม

ทุกการซื้อของ ย่อมมีข้อดี-ข้อเสีย แต่ความฟรีทำให้เรา “หลงลืมข้อเสีย” ไป เช่น คุณเป็นคนใส่ใจสุขภาพวิ่งออกกำลังกายทุกวัน ปกติทุกเย็นจะกิน “อกไก่” แต่มาวันหนึ่ง ร้านค้าจัดโปรโมชั่นพิเศษ โดยแจกฟรี “เบคอน” (จำนวนจำกัด) คุณเกิดอาการหน้ามืดตามัว และรีบคว้าเบคอนกลับมากินไม่ยั้ง สุดท้ายสิ่งที่ออกกำลังกายไปก็ “สูญเปล่า” เพราะปริมาณไขมันมหาศาลของเบคอน

Dan Ariely ทำการทดลองโดยแจกช็อกโกแลต 2 แบรนด์ระหว่าง

  • (พรีเมียม) ยี่ห้อ Lindt Truffles ราคา $0.15  
  • (ธรรมดา) ยี่ห้อ Hershey’s Kisses ราคา $0.01 

ปกติ Lindt Truffles จะขายดีกว่า แต่เมื่อทำการ “ลดราคาอย่างละ $0.01” 

  • Lindt Truffles ราคาเหลือ $0.14  
  • Hershey’s Kisses ราคาเหลือ $0 (ฟรี)

ปรากฏว่า Hershey’s Kisses ขายดีถล่มทลาย ทั้งๆ ที่ Lindt Truffles ราคาถูกกว่าเดิม

เขายังตั้งข้อสมมติฐานเล่นๆ ระหว่าง “เบียร์ 0 แคลอรี่ VS. เบียร์ 100 แคลอรี่”

กรณีนี้ คนสั่งเบียร์ 0 แคลอรี่อาจรู้สึกดีต่อสุขภาพตัวเองมาก…มากเสียจนเค้าอาจสั่งเฟรนช์ฟรายส์เพิ่ม (กลายเป็นแคลอรี่พุ่งระเบิด)

ตัวอย่าง Zero-Price Effect ในธุรกิจ

Amazon ทำการ “จัดส่งฟรี” (Free delivery) เมื่อลูกค้าซื้อขั้นต่ำถึงราคาที่กำหนด ทำให้ลูกค้าที่ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเยอะถึงที่กำหนด กลับต้องจ่ายเงินเพิ่มเพื่อให้ได้รับสิทธิจัดส่งฟรี

  • เช่นสมมติ ส่งฟรีเมื่อซื้อขั้นต่ำ 300 บาท
  • สินค้าที่ลูกค้าเลือกราคา 200 บาท (และจ่ายค่าส่งอีกนิดหน่อย)
  • กลายเป็นว่าลูกค้าต้องหาสินค้าอื่นมาแค่ “เติมให้ครบๆ” เพื่อถึงขั้นต่ำที่กำหนด

เมื่อ Starbucks จัดโปรโมชั่นพิเศษ “ซื้อ 1 แถม 1” (แก้วที่ 2 ราคา 0 บาท) ในบางช่วงเวลาสั้นๆ ของวัน จนทำให้หน้าร้านหลายสาขาเกิดแถวคิวยาวเหยียด ผู้คนอาจต้องเสียเวลาต่อคิวนานเกือบ 30 นาทีเพื่อรับกาแฟ ซึ่งบางที…เวลาที่เสียไปนั้นอาจมีค่ามากกว่ากาแฟซะอีก (และ Experience แย่ลงเพราะต่อคิวนานเกินไป)

เชนโรงแรมใหญ่ในช่วงโควิด-19 จัดโปรโมชั่น “กินบุฟเฟต์ แถมฟรีห้องพัก 1 คืน” เป็นการเอา “ห้องพัก” มาหลอกล่อให้คนสนใจ กรณีนี้ เค้าอาจไม่ได้ชอบกินบุฟเฟ่ต์หรือชอบสไตล์ตกแต่งของโรงแรมก็ได้ แต่ก็จ่ายเงินจองไปเพราะความฟรี

Zero-Price Effect ยังใช้ได้กับ “นโยบายสาธารณะ” เช่น รัฐบาลอาจโน้มน้าวให้คนมาฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 และรับฟรีไปเลย กาแฟ 1 แก้ว

ถ้าเรารู้เท่าทัน Zero-Price Effect นอกจากจะได้สินค้าบริการที่ตอบโจทย์ตัวเองจริงๆ แล้ว ยังเป็นการ “รู้ความต้องการของตัวเอง” มากขึ้นด้วย เพราะระหว่างทางเส้นทางนี้ คือการสำรวจความคิดในใจนั่นเอง

 

ทำ “แบบประเมินอาชีพ” จาก CareerVisa เพื่อค้นหาอาชีพที่ใช่ งานที่ชอบ…จะได้มีความสุขในการทำงานทุกๆ วัน >>> https://www.careervisaassessment.com/five-shades-assessment-th/

ยังไม่รู้จะหางานอะไรดี? รีบเข้าไปที่ >>> www.careervisaassessment.com

ทำ Resume แบบมืออาชีพได้ง่ายๆ ที่ >>> https://myrightcareer.net/

อ้างอิง

#Zero-Price Effect #Cognitive Bias #Business Psychology #Decision Making #Pricing Strategy
Writer: